ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อการผลิตชิ้นงานต่าง ๆ ล้วนต้องการความแม่นยำ ความรวดเร็ว และความสามารถในการสร้างสรรค์ที่เหนือกว่าเดิม และหนึ่งในนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้อย่างลงตัว คือ "เลเซอร์คัท" เทคโนโลยีสุดล้ำที่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลากหลายอุตสาหกรรม
แต่หลายคนอาจยังไม่รู้จักหรือเข้าใจว่าเลเซอร์คัทคืออะไร และสามารถทำอะไรได้บ้าง บทความนี้จะพาคุณไปไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเลเซอร์คัท ไปจนถึงตั้งแต่หลักการทำงาน ติดตามกันได้เลย
การตัดเลเซอร์ หรือ เลเซอคัทคืออะไร
คุณเคยสงสัยไหมว่าชิ้นงานโลหะหรือพลาสติกที่มีรูปทรงซับซ้อน และลวดลายละเอียดอ่อนนั้นถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร คำตอบอาจอยู่ที่ "เลเซอร์คัท" ด้วยความสามารถในการตัดและแกะสลักวัสดุต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วราวกับมีเวทมนตร์
ทั้งนี้เลเซอร์คัท คือ กระบวนการตัดวัสดุโดยใช้ลำแสงเลเซอร์พลังงานสูง ซึ่งสามารถควบคุม การตัด แกะสลัก หรือเจาะ วัสดุต่าง ๆ ให้เป็นรูปร่างตามต้องการ โดยสามารถกำหนดทิศทางและความเข้มข้นได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถตัดวัสดุได้หลากหลายชนิดและสร้างลวดลายที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นโลหะ พลาสติก ไม้ หรือแม้กระทั่งผ้า ล้วนสามารถนำมาใช้กับเทคโนโลยีนี้ได้
อธิบายเพิ่มเติมแบบเป็นทางการได้ว่า ‘เลเซอร์คัท’ (Laser Cutting) คือ เทคโนโลยีการตัดวัสดุด้วยลำแสงเลเซอร์พลังงานสูง ที่มีความแม่นยำและรวดเร็ว สามารถตัดวัสดุได้หลากหลายชนิด ทั้งโลหะ อโลหะ หรือแม้กระทั่งวัสดุอินทรีย์บางชนิด เช่น ไม้ กระดาษ ผ้า หนัง พลาสติก อะคริลิก และอื่น ๆ
การตัดเลเซอร์นำมาใช้ทำอะไรได้บ้าง
ไม่ใช่แค่การตัดเท่านั้น แต่เลเซอร์คัทคือพลังสร้างสรรค์ที่พร้อมเนรมิตไอเดียของคุณให้เป็นจริง ด้วยความสามารถที่หลากหลายและแม่นยำเหนือระดับ เลเซอร์คัทจึงไม่ใช่แค่เครื่องมือในโรงงานอุตสาหกรรมอีกต่อไป แต่ยังเป็นอาวุธลับของเหล่าศิลปิน นักออกแบบ และผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่เหมือนใครยังไงละ
แล้วเจ้าตัวเลเซอร์คัทสามารถทำอะไรได้บ้าง? มีประโยชน์อย่างไร เรารวบรวมมาให้แล้ว
การตัดวัสดุ
สามารถตัดวัสดุได้หลากหลายประเภท ทั้งโลหะ (เช่น เหล็ก, สเตนเลส, อะลูมิเนียม) และตัดวัสดุได้ทั้งแบบ 2 มิติ (2D) และ 3 มิติ (3D) ขึ้นอยู่กับชนิดและความสามารถของเครื่องเลเซอร์คัท ทั้งนี้ วัสดุที่มีความหนาบาง หรือหนาได้ตามความเหมาะสมของเครื่องเลเซอร์คัทแต่ละประเภทได้เลยเช่นกัน
การเจาะรู
ตัวเลเซอร์คัทยังมีฟีเจอร์เจาะรูขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่บนวัสดุได้อย่างแม่นยำอีกด้วยนะ สามารถเจาะรูได้หลากหลายรูปแบบเลย เช่น รูกลม รูเหลี่ยม หรือรูตามรูปทรงที่กำหนด
การทำเครื่องหมาย
ให้คุณทำเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ต่างๆ ลงบนวัสดุได้อย่างถาวร ซึ่งมักใช้ในการทำเครื่องหมายระบุข้อมูลผลิตภัณฑ์, วันที่ผลิต, หมายเลขซีเรียล หรือโลโก้บริษัท
อ่านมาถึงตรงนี้หลาย ๆ ท่านอาจจะสงสัยว่าแล้วเลเซอร์คัททำได้อย่างไร? แน่นอนว่าการออกแบบชิ้นงานที่ต้องการตัดหรือแกะสลัก ต้องทำในโปรแกรมออกแบบก่อน (เช่น AutoCAD, CorelDRAW) และแปลงเป็นไฟล์ที่เครื่องเลเซอร์คัทสามารถอ่านได้ จากนั้นก็ตั้งค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ของเครื่องเลเซอร์คัท เช่น ประเภทของวัสดุ, ความหนาของวัสดุ, ความเร็วในการตัด, และกำลังของเลเซอร์ ให้เหมาะสมกับชิ้นงาน สุดท้ายก็นำวัสดุที่ต้องการตัดหรือแกะสลักวางลงบนพื้นที่ทำงานของเครื่องเลเซอร์คัท จากนั้นสั่งให้เครื่องเริ่มทำงาน ลำแสงเลเซอร์จะถูกปล่อยออกมาและเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางที่กำหนดในไฟล์ เพื่อตัดหรือแกะสลักวัสดุตามต้องการได้เลย
การทำงานของเครื่องตัดเลเซอร์
การทำงานของเครื่องตัดเลเซอร์ อาจดูซับซ้อน แต่จริง ๆ แล้วเข้าใจง่ายมาก ลองนึกภาพตามนี้ดู
1. เริ่มจากแหล่งกำเนิดแสงเลเซอร์
เหมือนกับหัวใจของเครื่องเลยล่ะ โดยจะมีหลอดแก้วพิเศษ บรรจุแก๊ส เช่น CO2 หรือ ผลึก เช่น Nd:YAG เมื่อจ่ายพลังงานเข้าไป จะเกิดลำแสงเลเซอร์พลังงานสูง
2. ลำแสงเดินทางผ่านกระจก
ลำแสงจากแหล่งกำเนิดจะถูกส่งผ่านไปตามกระจก ที่ทำหน้าที่เหมือน "ตัวนำทาง" พาเลเซอร์ไปยังหัวตัด
3. รวมพลังที่หัวตัด
หัวตัดจะมีเลนส์รวมแสง ที่จะทำหน้าที่เหมือนแว่นขยาย รวมลำแสงเลเซอร์ให้เป็นจุดเล็ก ๆ แต่พลังงานสูงมาก พอสัมผัสกับวัสดุก็จะตัดได้
4. ตัดตามรูปแบบที่ต้องการ
หัวตัดจะเคลื่อนที่ไปตามรูปแบบที่เราออกแบบไว้ อาจเป็นตัวอักษร ลวดลาย หรือรูปทรงต่างๆ ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ทำให้ตัดได้แม่นยำมาก
5. แก๊สช่วย
ระหว่างตัด จะมีการพ่นแก๊สช่วย เช่น ออกซิเจน หรือ ไนโตรเจน เพื่อช่วยในการตัด และป้องกันการ เกิดออกซิเดชัน
ความแม่นยำของการตัดเลเซอร์
เมื่อพูดถึงเลเซอร์คัท หลายคนอาจจะนึกถึงแค่ความสามารถในการตัดวัสดุที่แม่นยำ แต่ความจริงแล้ว เลเซอร์คัทมีข้อดีที่เหนือกว่านั้นอีกมากมาย ที่จะทำให้คุณต้องทึ่งและอยากนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานของคุณ
เนื่องจากเลเซอร์คัทสามารถตัดวัสดุได้อย่างแม่นยำตามแบบที่กำหนด โดยมีความคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อย ทำให้ได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพสูงและตรงตามความต้องการ และสามารถตัดวัสดุได้อย่างรวดเร็วกว่าวิธีการตัดแบบเดิมๆ ช่วยลดระยะเวลาในการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างมาก
ทั้งนี้เลเซอร์คัทให้รอยตัดที่เรียบเนียนและคมชัด ไม่จำเป็นต้องมีการขัดแต่งเพิ่มเติม ช่วยลดขั้นตอนในการผลิตและประหยัดเวลา โดยใช้กระบวนการตัดแบบไม่สัมผัสชิ้นงานโดยตรง จึงไม่ทำให้ชิ้นงานเสียหายหรือเกิดรอยขีดข่วน และตัดวัสดุได้อย่างแม่นยำตามแบบที่กำหนด ทำให้สามารถจัดวางชิ้นงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสิ้นเปลืองวัสดุและประหยัดต้นทุน
จนไปถึงการใช้เลเซอร์คัทเป็นกระบวนการตัดที่ปลอดภัยกว่าวิธีการตัดแบบเดิม ๆ เนื่องจากไม่มีการสัมผัสชิ้นงานโดยตรง และไม่มีการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย ไม่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองหรือเศษวัสดุที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และใช้พลังงานน้อยกว่าวิธีการตัดแบบเดิม ๆ
สุดท้ายแล้วหาคุณอยากทำให้จากไอเดียสู่ความจริง ที่แม่นยำในทุกรายละเอียด PLM ไพลิน เลเซอร์ เมทเทิล ผู้นำด้านเลเซอร์คัทครบวงจร ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ไม่ว่าจะงานเล็ก งานใหญ่ งานละเอียดแค่ไหน ก็จบได้ในที่เดียว สนใจ อย่ารอช้า ติดต่อเราได้เลยทุกช่องทาง
Comments