top of page
ค้นหา

สแตนเลสมีกี่ประเภท แต่ละประเภทเหมาะกับใช้งานทำอะไร

ประเภทแสตนเลส

สแตนเลส หรือ โลหะสีเงินเงาวาวที่ทนทานต่อสนิม ไม่เป็นรอยง่าย และมีอายุการใช้งานยาวนาน จึงไม่แปลกที่สแตนเลสจะกลายเป็นวัสดุยอดนิยมที่ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมผลิตเฟอร์นิเจอร์ อุตสาหกรรมยานยนต์ ไปจนถึงอุตสาหกรรมก่อสร้าง


หลายคนอาจไม่ทราบว่าสแตนเลสไม่ได้มีแค่ประเภทเดียว และแต่ละประเภทก็ถูกออกแบบมาให้ใช้งานที่แตกต่างกัน หากเลือกใช้สแตนเลสผิดประเภทอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพ ความปลอดภัยการใช้งานในระยะยาว บทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับประเภทของสแตนเลส พร้อมบอกให้เข้าใจว่าแต่ละแบบเหมาะกับงานประเภทไหนบ้าง เพื่อที่จะเลือกใช้สแตนเลสได้อย่างถูกต้อง


ประเภทของสแตนเลส


สแตนเลสเป็นโลหะที่มีโครเมียมเป็นผสมอย่างน้อย 11% และนิกเกิล 10-14% ซึ่งทำให้เกิดชั้นฟิล์มป้องกันการกัดกร่อนตามธรรมชาติ เรียกว่า passive film ที่ทำให้สแตนเลสมีคุณสมบัติป้องกันสนิมได้ดี อย่างไรก็ตาม สแตนเลสสามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก ตามโครงสร้างโลหะและคุณสมบัติการใช้งาน


1. สแตนเลสออสเทนนิติก Austenitic (เกรด 304, 316)


สแตนเลสประเภทออสเทนนิติกสามารถพบเห็นได้บ่อยสามารถใช้งานได้หลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเกรด 304 และ 316 ที่มักจะเห็นอยู่บ่อย ๆ เพราะมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อการกัดกร่อนสูง ไม่เป็นแม่เหล็ก และมีความสามารถในการขึ้นรูปเชื่อมตัดได้ดี


คุณสมบัติของสแตนเลสออสเทนนิติก


  • มีส่วนผสมของโครเมียม ประมาณ 18–20% และ นิกเกิล ประมาณ 8–10.5%

  • ไม่มีความเป็นแม่เหล็ก

  • ทนการกัดกร่อนได้ดี ทนต่อสภาพแวดล้อมมีความชื้นได้

  • สามารถใช้งานได้ทั้งในอุณหภูมิที่ร้อนและเย็น

  • นำไปแปรรูปได้ง่าย เชื่อม ดัด ตัด ได้

  • มีอายุการใช้งานยาวนาน


เกรดสแตนเลสออสเทนนิติก 304 และ 316


สแตนเลส 304 เป็นสแตนเลสมาตรฐานที่นิยมใช้มากที่สุด เพราะราคาถูก แข็งแรง น้ำหนักเบา ทนทานต่อสนิมได้ดี เหมาะกับใช้งานทั่วไป


สแตนเลส 316 เป็นสแตนเลสที่มีมาตรฐานเหมือนกับ 304 แต่จะเพิ่มโมลิบดีนัม Mo เพื่อเพิ่มความทนทานต่อสารเคมีและเกลือ เหมาะกับใช้งานในอุตสาหกรรมเคมี การผลิตยา


เหมาะกับใช้งานด้านไหนบ้าง


อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม: เช่น ถังบรรจุน้ำ ถังนม เครื่องครัว เครื่องชงกาแฟ เนื่องจากสะอาด ทนทานต่อกรดได้ดี และไม่เกิดสนิม


เครื่องมือแพทย์: เช่น เครื่องมือผ่าตัด อุปกรณ์ห้องแล็บ เพราะไม่เป็นสนิม และทนทานต่อน้ำยาฆ่าเชื้อ


งานตกแต่งภายในและภายนอกอาคาร: เช่น ราวบันได มือจับประตู แผ่นตกแต่งผนัง เพราะผิวนอกมีความเงาสวยงามและดูแลรักษาง่าย


อุตสาหกรรมเคมี และยา: โดยเฉพาะที่ต้องการความสะอาด ปลอดเชื้อ และทนทานต่อการกัดกร่อน


2. สแตนเลสเฟอริติก Ferritic


เป็นกลุ่มสแตนเลสที่มีโครเมียมผสมอยู่ประมาณ 10.5% ถึง 30% และมีคาร์บอนในปริมาณต่ำ ทำให้มีความแข็งแกร่งสูงกว่าออสเทนนิติกมีโครงสร้างจุลภาคแบบ Body-Centered Cubic (BCC) ซึ่งทำให้สแตนเลสประเภทนี้มีคุณสมบัติดึงดูดได้เหมือนแม่เหล็ก


คุณสมบัติหลักของสแตนเลสเฟอริติก Ferritic


  • มีส่วนผสมของโครเมียมประมาณ 10.5% ถึง 30%

  • มัคุณสมบัติดึงดูดเหมือนแม่เหล็ก

  • ทนความร้อนได้ดี โดยเฉพาะในการใช้งานที่อุณหภูมิสูงต่อเนื่อง

  • ทนต่อการกัดกร่อน

  • สามารถขึ้นรูปและเชื่อมได้ แต่อาจไม่ดีเท่าสแตนเลสออสเทนนิติก


เกรดสแตนเลสเฟอริติก Ferritic


สแตนเลส 430 เกรดที่พบมากที่สุดในกลุ่มเฟอริติก ใช้กันแพร่หลายในงานตกแต่งภายใน งานเครื่องใช้ไฟฟ้า และชิ้นส่วนที่ไม่สัมผัสกับกรดหรือสารเคมีแรง


เหมาะกับใช้งานด้านไหนบ้าง


  • เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เช่น ตู้เย็น ไมโครเวฟ เตาอบ หรือฝาครอบต่าง ที่ต้องการความทนความร้อน แต่ไม่โดนความชื้นโดยตรง

  • ชิ้นส่วนตกแต่งภายในบ้าน เช่น  มือจับประตู ราวบันได

  • ผลิตท่อไอเสียรถยนต์


3. สแตนเลสดูเพล็กซ์ Duplex


สแตนเลสดูเพล็กซ์คือสแตนเลสชนิดพิเศษที่นำโครงสร้างประเภทออสเทนนิติกและเฟอริติกเข้าไว้ด้วยกันในระดับ 50:50 จุดเด่นของสแตนเลสดูเพล็กซ์คือการมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าสแตนเลสทั่วไปในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านความแข็งแรงและความทนทานต่อการกัดกร่อน สารเคมีเข้มข้น


คุณสมบัติสแตนเลสดูเพล็กซ์


  • แข็งแรงกว่าสแตนเลสออสเทนนิติกถึงสองเท่า

  • ทนต่อการกัดกร่อนจากคลอไรด์ได้ดีกว่าเกรด 304 และ 316

  • มีความทนทานต่อการแตกร้าวจากการกัดกร่อนสูง

  • มีความเป็นแม่เหล็กอยู่บ้าง

  • อายุการใช้งานยาวนาน


เกรดสแตนเลสดูเพล็กซ์


  • 2205 (UNS S32205 / S31803) เกรดมาตรฐานที่ใช้งานแพร่หลายมากที่สุด

  • 2507 (Super Duplex) เกรดที่มีคุณสมบัติขั้นสูง ทนสารเคมีและแรงดันได้ดีมาก


เหมาะกับใช้งานด้านไหนบ้าง


  • อุตสาหกรรมปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ เช่น แท่นขุดเจาะน้ำมัน โครงสร้างในทะเล ท่อส่งน้ำมัน

  • อุตสาหกรรมเคมี ใช้ทำถังบรรจุสารเคมี ท่อส่งสารกัดกร่อน

  • งานโครงสร้างทางทะเล เช่น ท่าเรือ, สะพาน


4. สแตนเลสประเภทมาร์เทนซิติก Martensitic


เป็นสแตนเลสประเภทที่เน้นความแข็งแรงเป็นพิเศษ และสามารถนำไปใช้กระบวนการ ชุบแข็ง เพื่อเพิ่มความทนทานต่อแรงกระแทกและการสึกหรอได้ดี 


คุณสมบัติหสแตนเลสมาร์เทนซิติก


  • มีปริมาณ โครเมียม ประมาณ 11.5–18% และมี คาร์บอนสูงกว่าประเภทอื่น

  • โครงสร้างโลหะเป็นแบบ มาร์เทนซิติก ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติผ่านการชุบแข็ง

  • มีความแข็งแรงทางสูงมาก ทนแรงกระแทกและการสึกหรอได้ดี

  • มีความเป็นเป็นแม่เหล็ก และจะเปราะบางหากไม่ได้ผ่านการชุบแข็งอย่างเหมาะสม

  • มีความสามารถในการต้านทานการกัดกร่อนปานกลาง ไม่เหมาะกับงานที่เจอกับสารเคมีหรือความชื้นตลอดเวลา


เกรดสแตนเลสประเภทมาร์เทนซิติก


  • เกรด 410: เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง และทนต่อการสึกหรอในระดับหนึ่ง

  • เกรด 420: ใช้ทำมีด เครื่องมือผ่าตัด หรือกรรไกร

  • เกรด 440C: มีความแข็งแรงมาก เหมาะกับการเป็นวัสดุทำมีด แม่พิมพ์ หรือชิ้นส่วนที่ต้องรับแรงเฉือน


เหมาะกับใช้งานด้านไหน


  • เครื่องมือตัดและอุปกรณ์มีคม เช่น มีดทำครัว มีดผ่าตัด กรรไกร

  • ชิ้นส่วนเครื่องจักรกล เช่น เพลา เฟือง ลูกปืน ที่ต้องทนแรงเสียดสีหรือแรงกระแทก

  • ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่ต้องการความแข็งแรง ไม่เสียรูปง่าย

  • แม่พิมพ์ชิ้นส่วนอุตสาหกรรม


5. สแตนเลสประเภท PH Precipitation Hardening


สแตนเลสที่ออกแบบมาให้มี ความแข็งแรงสูง ร่วมกับ ความทนทานต่อการกัดกร่อน โดยผ่านกระบวนการอบชุบภายในเนื้อโลหะ เพิ่มความแข็งแรงโดยที่ไม่ทำให้เกิดความเปราะบาง

คุณสมบัติสแตนเลสประเภท PH


  • แข็งแรงมากกว่าสแตนเลสทั่วไปถึง 2–3 เท่า

  • ทนการกัดกร่อนดี

  • ไม่เป็นแม่เหล็ก

  • เหมาะกับเป็นชิ้นส่วนที่มีความละเอียดสูง


เกรดสแตนเลสประเภท PH


  • 17-4 PH (UNS S17400) เป็นเกรดที่นิยมใช้กันมากเนื่องจากมีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อสนิมได้ดี ขึ้นรูปง่าย

  • 15-5 PH มีความแข็งแรงและความเหนียวที่ดีกว่าเกรด 17-4 P

  • 13-8 Mo ใช้สำหรับงานที่ต้องการความแข็งและความเหนียวสูงในเวลาเดียวกัน เช่น อุตสาหกรรมการบินและเครื่องมือแพทย์


เหมาะกับใช้งานอะไรบ้าง


  • อุตสาหกรรมการบิน ใช้ทำชิ้นส่วนโครงสร้าง, อุปกรณ์ที่รับแรงดึงหรือแรงอัดสูง

  • อุตสาหกรรมพลังงาน เช่น กังหันก๊าซ วาล์วความดันสูง อุปกรณ์ในโรงไฟฟ้า

  • อุตสาหกรรมการแพทย์ ใช้ทำเครื่องมือแพทย์ที่ต้องอาศัยความแม่นยำสูง

  • แม่พิมพ์ที่มีความละเอียดสูง ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หรือชิ้นส่วนที่ต้องการขนาดคงที่


การเลือกใช้สแตนเลสควรเลือกให้เหมาะสมกับชิ้นงาน ซึ่งจะช่วยให้ชิ้นงานมีความทนทานและปลอดภัย ไม่เพียงเท่านี้และยังช่วยลดต้นทุนในการผลิตลงได้เป็นอย่างดี



 
 
 

Comments


บริษัท ไพลิน เลเซอร์ เมทเทิล จำกัด

3 ซอย เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 2 แยก 2,

แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร 10250

โทร: 02-366-0777

plm@plm.co.th

  • Facebook

บริษัท ไพลิน เลเซอร์ เมทเทิล จำกัด คือผู้นำด้านการแปรรูปโลหะ การตัดเหล็กด้วยเลเซอร์ และงาน CNC ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการตัดเหล็ก เจาะเหล็ก เชื่อมเพื่อประกอบและขึ้นรูปเหล็ก ไปจนถึงควบคุมการผลิตและตรวจสอบชิ้นงานเพื่อให้ได้คุณภาพสูงสุด PLM เป็นที่ยอมรับและได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำในหลายประเทศทั่วโลก ในฐานะบริษัทที่มีคุณภาพระดับสูง

bottom of page