งานแปรรูปแสตนเลสเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย

ในอุตสาหกรรมของการผลิตและการออกแบบวัสดุต่าง ๆ แสตนเลส ถือเป็นหนึ่งในวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่เพราะมันไม่เป็นสนิมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความแข็งแรง ทนทาน แสตนเลสจึงถูกนำมาใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ในบ้าน ไปจนถึงโครงสร้างในอาคารหรือโรงงานขนาดใหญ่

การนำแสตนเลสไปใช้งานในด้านต่างๆ จะต้องผ่านการแปรรูปที่ช่วยให้กลายเป็นชิ้นงานที่ตอบโจทย์การใช้งานเฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็นการตัด ดัด เชื่อม ขัดเงา หรือการขึ้นรูปแบบต่าง ๆ ทั้งหมดนี้คือกระบวนการที่ต้องอาศัยทั้งความรู้ ความชำนาญ และเครื่องมือเฉพาะทาง

แสตนเลสแปรรูปสามารถนำไปใช้งานอะไรได้บ้าง

แสตนเลสเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูงมาก และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับหลากหลายอุตสาหกรรมซึ่งความสามารถในการทนต่อสนิม ความร้อน ความชื้น รวมถึงการขึ้นรูปได้ง่ายจึงทำให้แสตนเลสเป็นวัสดุยอดฮิตในการขึ้นชิ้นงาน

1. อุตสาหกรรมก่อสร้าง

แสตนเลสเหมาะกับเอาไปใช้ในงานก่อสร้างเนื่องจากคุณสมบัติความทนทานต่อการขึ้นสนิม (สแตนเลสเกรด 304 และ 316) ยังนิยมเอาไปแปรรูปเป็น ท่อสแตนเลสกลม ท่อสแตนเลสแบน เพื่อนำเอาไปใช้ทำ ราวบันได ราวกันตก กันสาด แผ่นระแนง โครงแสตนเลสมีความแข็งแรง ไม่โค้งงอ

นอกจากจะสามารถเอาไปใช้ในงานโครงสร้างแล้ว แสตนเลสยังทำให้ดูหรูหรา ดูแลรักษาง่าย เหมาะกับงานที่เน้นการดีไซน์แข็งแรงและสวยงามไปพร้อมกัน

2. การผลิตเฟอร์นิเจอร์

เฟอร์นิเจอร์และของใช้ ของตกแต่งภายในบ้าน ที่ต้องการวัสดุที่ทั้งแข็งแรงและสวยงามในเวลาเดียวกัน การใช้งานแสตนเลสจึงตอบโจทย์ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเกิดสนิมหรือการเสื่อมสภาพ ตัวอย่างเฟอร์นิเจอร์หรือของใช้ภายในบ้าง

• ซิงค์ล้างจาน

• ชั้นวางของในห้องน้ำหรือห้องครัว

• โครงที่นอน

• โต๊ะทำงาน

• แก้าอี้

• ชั้นวางรองเท้า

สามารถเลือกดูเฟอร์นิเจอร์แสตนเลสแต่งบ้าน

3. การตกแต่งภายนอกและภายใน

การขึ้นรูปแสตนเลสที่ง่าย รวดเร็ว พร้อมขัดผิวได้ทั้งแบบด้าน และ เงา ไปจนถึงการแกะสลักลวดลายต่าง ๆ ทำให้เหมาะในการใช้ตกแต่งที่เน้นความสวยงามหรูหราโดยไม่ต้องเสียเวลาในการดูแลรักษานาน ตัวอย่างอุปกรณ์ตกแต่งภายในและภายนอกที่สามารถนำแสตนเลสมาใช้งานได้

• ป้ายหน้าอาคาร

• ป้ายบริษัท

• แผ่นแสตนเลสฉลุลายตกแต่งผนังหรือเพดาน

ข้อดีและข้อที่ควรพิจารณาก่อนใช้แสตนเลสแปรรูป

ข้อดีของการใช้แสตนเลสแปรรูป

1. ทนต่อสนิมและการกัดกร่อน

คุณสมบัติโดดเด่นที่ดีที่สุด โดยเฉพาะเมื่อต้องเอาไปใช้ในสภาพแวดล้อมที่ชื้นโดนแสงแดดโดยตรง หรือ ใช้ในพื้นที่กลางแจ้ง

2. มีความแข็งแรงคงทน

แสตนเลสเป็นวัสดุที่มีความทนทานไม่พังง่ายทนต่อแรงกระแทก ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการความแข็งแรง เช่น โครงสร้าง เฟอร์นิเจอร์ หรือส่วนประกอบเครื่องจักร

3. ดูแลรักษาง่ายและไม่จำเป็นต้องทาเคลือบผิว

ต่างจากเหล็กทั่วไปที่ต้องทาสีป้องกันสนิม แสตนเลสสามารถใช้งานได้ทันทีหลังนำไปแปรรูปเสร็จ และทำความสะอาดได้ง่ายด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป

4. สามารถแปรรูปได้หลากหลายวิธี

แสตนเลสสามารถนำไปดัด พับ เชื่อม ตัด เจาะ หรือขัดเงาได้ตามต้องการ ซึ่งเหมาะกับทั้งงานดีไซน์ที่ต้องการความสวยงาม และงานที่ต้องการความแข็งแรงได้เช่นกัน

5. เป็นวัสดุที่ดูหรูหราและสมัยใหม่

   
   

พื้นผิวของแสตนเลสให้ภาพลักษณ์ที่สะอาด ดูทันสมัย และเหมาะกับกับงานตกแต่งสไตล์มินิมอล หรือโมเดิร์นได้อย่างลงตัว

ข้อควรพิจารณาก่อนเลือกใช้แสตนเลสแปรรูป

1. ต้นทุนค่าวัสดุสูงกว่าเหล็กทั่วไป

   
   

แม้แสตนเลสจะไม่ต้องทาสีหรือบำรุงรักษาบ่อย แต่ต้นทุนเริ่มต้นทั้งค่าวัสดุและค่าแปรรูปอาจจะสูงกว่าเหล็กแบบทั่วไป ซึ่งไม่เหมาะกับชิ้นงานที่ต้องการควบคุมต้นทุนให้ถูกลง

2. ต้องเลือกเกรดให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละประเภท

   
   

แสตนเลสมีหลายเกรด เช่น SUS 201, 304, 316 ซึ่งแต่ละเกรดมีความเหมาะสมกับที่ต่างกัน หากเลือกผิดประเภท อาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพหรือไม่ทนต่อการกัดกร่อนได้ ฉะนั้นการเลือกเกรดแสตนเลสก็ควรเลือกใช้ตามความเหมาะสม หากไม่แน่ใจเรื่องเกรดคุณภาพแสตนเลสสามารถขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญจากโรงงานไพลิน เลเซอร์ เมทเทิล

3. มีข้อจำกัดในการขึ้นรูปบางประเภท

   
   

แม้แสตนเลสจะดัดและพับได้ดี แต่ในบางกรณี เช่น การทำลายฉลุที่ละเอียดมาก หรือการเจาะรูขนาดเล็กในจำนวนมาก อาจต้องใช้เครื่องจักรเฉพาะทาง ซึ่งมีต้นทุนสูง ใช้เวลานานในการผลิตและต้องถูกควบคุมอย่างใกล้ชิดโดยวิศวกรมืออาชีพ

การเลือกใช้แสตนเลสให้คุ้มค่า จำเป็นต้องเข้าใจเกรดของวัสดุ เงื่อนไขการใช้งาน และต้นทุนประกอบกัน เพราะแม้จะมีข้อดีหลายด้าน แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรพิจารณาเช่นกัน หากคุณสามารถเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม แสตนเลสจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของความแข็งแรง ความสวยงาม และอายุการใช้งานระยะยาว