top of page
ค้นหา

10 สิ่งที่ต้องบอกร้านเลเซอร์คัท เพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบ


ตัดเลเซอร์

อยากได้งานเลเซอร์คัทสวยเป๊ะ ตรงใจ ไม่ต้องลุ้นใช่ไหม? จุดสำคัญอยู่ที่การบรีฟงาน หรือการให้ข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วนกับร้านผู้ให้บริการ หลายครั้งที่งานออกมาไม่สมบูรณ์แบบ หรือเกิดข้อผิดพลาด ก็เพราะการสื่อสารที่ไม่เคลียร์นี่เอง บทความนี้จึงสรุป 10 สิ่งสำคัญ ที่คุณต้องเตรียมและแจ้งให้ร้านเลเซอร์คัททราบ เพื่อปิดช่องว่างความเข้าใจ รับรองว่างานของคุณจะออกมาเนี๊ยบ ตรงตามแบบที่ต้องการ ลดปัญหาจุกจิก และประหยัดเวลาได้แน่นอน


10 สิ่งที่ต้องบอกร้านเลเซอร์คัท (The 10 Essential Points)


เพื่อให้การสั่งงานเลเซอร์คัทของคุณราบรื่น ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ และลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาด การสื่อสารข้อมูลสำคัญให้ครบถ้วนเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ลองมาเช็คลิสต์กันดูว่า 10 สิ่งที่คุณต้องเตรียมและบอกกับร้าน มีอะไรบ้าง 


  1. ไฟล์งานที่ถูกต้องและพร้อมใช้งาน


นี่คือหัวใจสำคัญที่สุดครับ ไฟล์งานของคุณต้องอยู่ใน รูปแบบเวกเตอร์ (Vector) เช่น .ai, .dxf, .svg ที่ มาตราส่วน (Scale) 1:1 เท่านั้น และต้อง ระบุหน่วยวัด (Units) ที่ใช้ในไฟล์ให้ชัดเจน (ส่วนใหญ่นิยม มิลลิเมตร - mm) ที่สำคัญ ตรวจสอบความเรียบร้อย ดังนี้


  • เส้นต้องเป็น เส้นปิด (Closed paths) สำหรับส่วนที่ต้องการตัดขาด

  • ไม่มีเส้นซ้อนทับกัน

  • แปลงตัวอักษร (Fonts) เป็น Outlines หรือ Curves ทั้งหมด เพื่อป้องกันฟอนต์เพี้ยน


ไฟล์ที่ถูกต้องและสะอาด จะช่วยให้ร้านทำงานได้ทันที ลดข้อผิดพลาด และได้ขนาดชิ้นงานตรงตามที่คุณต้องการเป๊ะครับ 


  1. รายละเอียดภายในไฟล์ที่สมบูรณ์


ในไฟล์ออกแบบของคุณ ต้อง ระบุให้ชัดเจนว่าแต่ละเส้นหรือแต่ละพื้นที่มีหน้าที่อะไร เพื่อให้เครื่องเลเซอร์ทำงานได้อย่างถูกต้อง วิธีที่นิยมคือ


  • ใช้สีเส้นที่แตกต่างกัน 

กำหนดสีเฉพาะสำหรับงานแต่ละประเภท เช่น สีแดงสำหรับ ตัดขาด (Cut), สีน้ำเงินสำหรับ แกะสลักลายเส้น (Score/Vector Engrave), และพื้นที่สีดำสำหรับ แกะสลักพื้นผิว (Engrave/Raster Engrave)


  • ใช้ Layer แยกประเภทงาน

จัดกลุ่มเส้นหรือวัตถุตามประเภทงาน (Cut, Score, Engrave) ไว้ใน Layer ที่แยกจากกัน

สำคัญมาก ๆ คือควรสอบถามมาตรฐานการใช้สี/Layer ของร้าน หรือหากคุณกำหนดเอง ต้องแจ้งให้ร้านทราบอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันความสับสนและให้ผลงานออกมาตรงตามที่คุณต้องการครับ


  1. ชนิดและ "ความหนา" ของวัสดุที่ชัดเจน


คุณต้องระบุ ชนิดของวัสดุ ที่ต้องการให้ชัดเจนที่สุด เช่น อะคริลิกใส ไม้ MDF เปลือย พลาสวูดสีขาว หรือไม้อัดสักเกรด A  ควบคู่ไปกับการระบุ ความหนาที่แน่นอน เป็นมิลลิเมตร (mm) เช่น "หนา 3 mm", "หนา 10 mm"


บางคนอาจจะงงว่าทำไมต้องชัดเจนขนาดนั้น ก็เพราะว่า


  • การตั้งค่า: วัสดุและความหนาแต่ละแบบ ใช้พลังงานและความเร็วเลเซอร์ต่างกัน

  • ราคา: วัสดุและความหนามีผลโดยตรงต่อราคา

  • ผลลัพธ์: เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่แข็งแรงและสวยงามตามต้องการ


อย่าลืมแจ้งด้วยว่า คุณจะนำวัสดุมาเอง หรือต้องการให้ทางร้านจัดหาให้ครับ


  1. แหล่งที่มาของวัสดุ


ดังที่กล่าวไปแล้ว ต้องแจ้งให้ร้านทราบอย่างชัดเจนว่า ใครจะเป็นผู้จัดหาวัสดุ สำหรับงานของคุณครับ มี 2 กรณีหลัก


  • ลูกค้านำวัสดุมาเอง 

หากคุณนำวัสดุมาเอง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าวัสดุมีคุณภาพดี เหมาะสมกับงานเลเซอร์คัท และอาจต้องเตรียมวัสดุเผื่อเล็กน้อยสำหรับการทดสอบตั้งค่าเครื่อง (โดยเฉพาะถ้าเป็นวัสดุที่ร้านไม่คุ้นเคย)


  • ให้ร้านจัดหาให้ 

หากให้ทางร้านจัดหาให้ ทางร้านจะเลือกวัสดุที่ได้มาตรฐานสำหรับงานเลเซอร์คัท และราคามักจะรวมอยู่ในใบเสนอราคาแล้ว ควรยืนยันกับทางร้านว่ามีวัสดุที่คุณต้องการในสต็อกหรือไม่


การระบุแหล่งที่มาให้ชัดเจน ช่วยป้องกันความสับสนเรื่องค่าใช้จ่าย การเตรียมวัสดุ และทำให้

กระบวนการทำงานราบรื่นขึ้นครับ


  1. จำนวนชิ้นงานที่แม่นยำ


ระบุจำนวนชิ้นงานที่ต้องการทั้งหมดให้ชัดเจนและแม่นยำ


  • หากมีหลายแบบ: ต้องแจ้งจำนวนแยกสำหรับ แต่ละแบบ หรือแต่ละไฟล์ ให้ครบถ้วน (เช่น แบบ A จำนวน 50 ชิ้น, แบบ B จำนวน 100 ชิ้น)

  • หากเป็นชุด: ต้องแจ้งว่าต้องการทั้งหมดกี่ชุด และใน 1 ชุดประกอบด้วยชิ้นส่วนอะไรบ้าง อย่างละกี่ชิ้น


ข้อมูลจำนวนที่แม่นยำนี้ จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับร้านในการ คำนวณราคา ประเมินเวลาผลิต และวางแผนการใช้วัสดุ ได้อย่างถูกต้องครับ


  1. คำสั่งการทำงานที่ชัดเจน


นอกจากการระบุว่าส่วนไหนต้อง ตัด กรีดลายเส้น หรือแกะสลักในไฟล์แล้ว (ซึ่งต้องชัดเจนผ่านสีเส้นหรือ Layer ตามที่ตกลงกัน) คุณควรแจ้ง "คำสั่ง" เพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนอื่น ๆ หรือการเก็บรายละเอียดงานให้ชัดเจนด้วยครับ เช่น:


  • การเก็บผิวงาน: ต้องการให้ ขัดขอบ ลบรอยไหม้ หรือไม่? (โดยเฉพาะงานไม้)

  • การทำความสะอาด: ต้องการให้ เช็ดคราบเขม่า หรือ ลอกฟิล์มกันรอย ออกเลยหรือไม่? (สำหรับอะคริลิก)

  • งานหลังการตัด: มีงาน ทำสี, พ่นเคลือบ, หรือประกอบชิ้นส่วน เพิ่มเติมหรือไม่?


การให้คำสั่งหรือรายละเอียดความต้องการเหล่านี้ครบถ้วน จะช่วยให้ร้านเข้าใจขอบเขตงานทั้งหมด ประเมินราคาและเวลาได้แม่นยำ และส่งมอบงานได้ตรงตามที่คุณคาดหวังครับ 


  1. ขนาดสำคัญและค่าความคลาดเคลื่อน (ถ้ามี) 


นอกเหนือจากขนาดโดยรวม (กว้าง x ยาว) ของชิ้นงานที่ต้องตรงกับไฟล์ 1:1 แล้ว


  • เน้นขนาดเฉพาะจุด 

หากในดีไซน์ของคุณมี ขนาดบางส่วนที่สำคัญเป็นพิเศษ และต้องแม่นยำมากๆ (เช่น เส้นผ่านศูนย์กลางของรู, ความกว้างของช่องเสียบสำหรับงานประกอบ, ระยะห่างระหว่างจุด) ควรเน้นย้ำ หรือใส่ Dimension กำกับในไฟล์ส่วนนั้ นๆ ให้ชัดเจน


  • ระบุค่าความคลาดเคลื่อน (Tolerance)

 ถ้าระดับความแม่นยำเป็นสิ่งสำคัญยิ่งยวด (โดยเฉพาะชิ้นส่วนที่ต้องนำไปสวมประกอบกันพอดี) ควรระบุ ค่าความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ เป็นตัวเลข (เช่น +/- 0.1 mm, +/- 0.2 mm) แจ้งให้ร้านทราบ


  1. ความต้องการด้านการเก็บผิวงาน / หลังการตัด


แจ้งให้ร้านทราบอย่างชัดเจน หากคุณต้องการ บริการเพิ่มเติมหลังจากที่เครื่องเลเซอร์ทำงานเสร็จแล้ว ซึ่งอาจรวมถึง


  • การทำความสะอาด: เช่น เช็ดคราบเขม่า, เป่าฝุ่นผง

  • การเก็บขอบ: เช่น ขัดลบรอยไหม้ (โดยเฉพาะงานไม้), ขัดเงาขอบอะคริลิก

  • การลอกฟิล์ม: ลอกแผ่นฟิล์มกันรอยออกจากอะคริลิก

  • การทำสี/เคลือบผิว: เช่น พ่นสี, ทาแลคเกอร์

  • การประกอบ: หากชิ้นงานมีหลายส่วนและต้องการให้ร้านประกอบเป็นชิ้นสมบูรณ์


การระบุความต้องการเหล่านี้ให้ชัดเจนตั้งแต่ตอนบรีฟงาน จะช่วยให้ร้านค้าประเมิน ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และ ระยะเวลาที่ต้องใช้เพิ่ม ได้อย่างถูกต้อง และคุณจะได้รับชิ้นงานที่เสร็จสมบูรณ์ตามที่ต้องการจริง ๆ ครับ 


  1. กำหนดส่งงาน / ความเร่งด่วน


แจ้ง วันที่คุณต้องการให้งานเสร็จเรียบร้อยพร้อมรับ (Deadline) ให้ชัดเจนที่สุด


  • ระบุวันที่: บอกเป็นวันที่ที่แน่นอน เช่น "ต้องการรับงานภายในวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม"

  • กรณีงานด่วน: หากเป็นงานที่ต้องการเร็วกว่าปกติ หรือ "งานด่วน" ต้องแจ้งให้ร้านทราบทันที เพื่อให้ร้านตรวจสอบคิวงานและประเมินความเป็นไปได้ (ซึ่งอาจมีค่าบริการเพิ่มเติมสำหรับงานเร่งด่วน)


การแจ้งกำหนดส่งที่ชัดเจน ช่วยให้ร้านสามารถ จัดลำดับคิวงาน วางแผนการผลิต และยืนยันกับคุณได้ว่าจะสามารถส่งมอบงานได้ทันตามกำหนดหรือไม่ การสื่อสารเรื่องนี้ล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญมากครับ 


  1. ข้อมูลติดต่อและไฟล์อ้างอิง (ถ้าจำเป็น)


เพื่อให้การสื่อสารราบรื่นและแม่นยำยิ่งขึ้น แนะนำให้แจ้ง ชื่อผู้ติดต่อ, เบอร์โทรศัพท์, และอีเมล (หรือ Line ID) ที่สามารถติดต่อได้สะดวกที่สุด เพื่อให้ทางร้านสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือแจ้งความคืบหน้าของงานได้อย่างรวดเร็ว


และสำหรับงานที่มีความซับซ้อน, มีการประกอบหลายชิ้น, หรือต้องการให้เห็นภาพผลลัพธ์ที่ชัดเจน การแนบไฟล์เพิ่มเติม เช่น รูปภาพตัวอย่าง, ภาพสเก็ตช์, หรือแบบ 3D (ถ้ามี) จะช่วยให้ร้านเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการได้ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น ป้องกันความเข้าใจผิดพลาดได้เป็นอย่างดี


จำไว้ว่า บรีฟที่ชัดเจน นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เฉียบคม การให้ข้อมูลครบทั้ง 10 ข้อนี้ จะช่วยลดข้อผิดพลาดและทำให้งานเลเซอร์คัทของคุณสมบูรณ์แบบ และถ้าต้องการความเฉียบคม แม่นยำในงานตัดเลเซอร์โลหะ ที่เปล่งประกายเหมือนชื่อเรา ต้องที่ บริษัท ไพลิน เลเซอร์ เมทเทิล จำกัด เท่านั้น เพราะ 'ไพลิน เลเซอร์ เมทเทิล ตัดโลหะคมกริบ งานเนี๊ยบดุจไพลิน' ให้เราเปลี่ยนโลหะธรรมดา เป็นชิ้นงานมาสเตอร์พีซสำหรับคุณ


 
 
 

Comentarios


บริษัท ไพลิน เลเซอร์ เมทเทิล จำกัด

3 ซอย เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 2 แยก 2,

แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร 10250

โทร: 02-366-0777

plm@plm.co.th

  • Facebook

บริษัท ไพลิน เลเซอร์ เมทเทิล จำกัด คือผู้นำด้านการแปรรูปโลหะ การตัดเหล็กด้วยเลเซอร์ และงาน CNC ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการตัดเหล็ก เจาะเหล็ก เชื่อมเพื่อประกอบและขึ้นรูปเหล็ก ไปจนถึงควบคุมการผลิตและตรวจสอบชิ้นงานเพื่อให้ได้คุณภาพสูงสุด PLM เป็นที่ยอมรับและได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำในหลายประเทศทั่วโลก ในฐานะบริษัทที่มีคุณภาพระดับสูง

bottom of page